เอพีคาดปีนี้โกยยอดขาย7.5พันล้าน

ย้อนกลับ31 ตุลาคม 2549

เอพีชี้หลังปฏิรูปการปกครองยอดขายพุ่งสัปดาห์ละเกือบ 200 ล้านบาท คาดสิ้นปีโกยยอดไม่ต่ำกว่า 7.5 พันล้านบาท เล็งปีหน้าเปิดอีก 4 โครงการ

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า หลังจาก ที่มีการปฏิรูปการปกครองเมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมาพบว่า บริษัทมียอดขายเพิ่มมากขึ้นเฉลี่ย 150-200 ล้านบาท/สัปดาห์ จากเดิมช่วงก่อนที่มีการปฏิรูปการปกครองมียอดขายประมาณ 100-150 ล้านบาทต่อสัปดาห์ แสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่เริ่มปรับลดลง ประกอบกับภาวะอัตราดอกเบี้ยเริ่มนิ่ง ทำให้ผู้บริโภคมีความ เชื่อมั่นมากขึ้น คาดว่าในปีนี้จะทำให้บริษัท มียอดขายไม่ต่ำกว่า 7.5 พันล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่วางเอาไว้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจัยลบต่างๆ จะคลี่คลายลงไปในช่วงปลายไตรมาส 3 ทำให้ภาวะตลาดกลับดีขึ้นมาบ้าง และเชื่อว่าในปีหน้าภาวะตลาดยังคงดีอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีปัญหาในเรื่องของการแข่งขันที่สูงในบางทำเล และขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าในทำเลนั้น

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีหน้า บริษัทเตรียมงบประมาณซื้อที่ดินไว้ 1.5 พันล้านบาท เฉลี่ย 6-7 แปลง ส่วนปีนี้ใช้เม็ดเงินซื้อที่ดินไปแล้ว 1.2 พันล้านบาท คาดว่าถึงสิ้นปีจะใช้เม็ดเงินซื้อที่ดินประมาณ 1.5 พันล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีที่ดินที่จะพัฒนาโครงการและเปิดในปีหน้า 4 โครงการ รวมมูลค่า 3.5 พันล้านบาท ซึ่งได้แก่ 1.ดิแอสเดรท ชิดลม 2.บ้านกลางเมือง กรุงเทพกรีฑา 3.บ้านกลางเมือง ลาดปลาเค้า และ 4.ออฟฟิศ พาร์ค วังหิน

ทั้งนี้ ในปีหน้าบริษัทจะไม่พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว จากปัจจุบันมีการผลิตอยู่ที่ 25% คอนโดมิเนียม 15% และทาวน์เฮาส์ 60% โดยปีหน้าจะเพิ่มสัดส่วนการพัฒนาคอนโดมิเนียมเป็น 40-45% และที่เหลือเป็นทาวน์เฮาส์ ปัจจุบันบริษัทมีสินค้ารอขายประมาณ 7.5 พันล้านบาท โดยรวมกับ 3 โครงการที่จะเปิดใหม่แล้ว และเมื่อรวมกับโครงการใหม่ที่จะเปิดจากช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ถึงปีหน้า บริษัทจะมีสินค้าสำหรับขายรวม 1.1 หมื่นล้านบาท

นายอนุพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ บริษัทสามารถขายโครงการอาคารอาร์เอส ทาวเวอร์ ที่ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อได้แล้วเมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา มูลค่ารวม 1,432 ล้านบาท ให้กับกลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์จากสิงคโปร์ Bigton Investment โดยได้กำไรจากการขาย 600 ล้านบาท

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ Today,  วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2549