เมษายน 2561
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ AP ในวันนี้คือใคร?
AP (THAILAND) PLC ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย มีพันธกิจสำคัญ คือ การส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัย ครอบคลุมทุกมิติ โดยเราโฟกัสกลุ่มลูกค้าคนเมืองเซกเมนต์กลางถึงบนที่มองหาโครงการที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม หรือ บ้านเดี่ยว โดยเน้นทำเลใจกลางกรุงเทพฯ ในระดับราคาที่หลากหลายเริ่มต้นที่ 2.5 - 80 ล้านบาท
โครงการประเภทใดที่ AP มุ่งเน้นพัฒนา?
สำหรับทิศการดำเนินงานในปี 2561 เราตั้งเป้าหมายใหญ่ในการนำพาเอพีก้าวขึ้นสู่การเป็น 1 ใน 3 ของผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ภายใต้พันธกิจสำคัญ คือ การส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัย ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการคิดค้นนวัตกรรมดีไซน์ใหม่ๆ ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย และวางแผนจัดตั้งหน่วยงานพิเศษ เพื่อทำหน้าที่ค้นหา คิดค้น และพัฒนานวัตกรรมที่ส่งเสริม และยกระดับ รูปแบบการดำเนินชีวิตสู่ประสบการณ์อยู่อาศัยในอสังหาริมทรัพย์สู่วิถีใหม่ๆ อย่างครบถ้วนด้วยคุณภาพ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย เข้าถึงความหมายของคำว่าคุณภาพชีวิตที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริง และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ผ่านแผนการดำเนินงานใน 5 มิติสู่ความสำเร็จ
- สานต่อความสำเร็จกับกลุ่มมิตซูบิชิ เอสเตท เดินหน้าสานต่อความร่วมมือเป็นปีที่ 5 กับทางมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป โดยปีนี้มีแผนที่จะพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับกลางถึงบนอย่างต่อเนื่อง โดยได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมใหม่ไปแล้วจำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 23,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคม บริษัทฯ จะพร้อมเปิดขายคอนโดร่วมทุนโครงการแรก คือ LIFE สุขุมวิท 62 โดย ณ ปัจจุบัน เอพี-มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป มีคอนโดมิเนียมที่พัฒนาร่วมกันทั้งสิ้น 15 โครงการ มูลค่าโครงการสูงถึง 73,000 ล้านบาท
- เปิดตัวสินค้าระดับ Super Luxury ด้วยแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภค ไฮไลต์ของปีนี้คือ การนำแบรนด์ระดับ Super Luxury ของเอพีที่ประสบความสำเร็จอย่างมากและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค อย่างแบรนด์คอนโด THE ADDRESS และคฤหาสน์หรูแบรนด์ THE PALAZZO กลับมาพัฒนาอีกครั้ง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าระดับบน ที่มองหาที่อยู่อาศัยพรีเมี่ยมในทำเลศักยภาพซึ่งคาดว่าจะพร้อมเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง
- รุกตลาดสินค้าแนวราบ สร้างความต่างด้วยการออกแบบสินค้าที่ตอบความต้องการเฉพาะกลุ่ม (MASS CUSTOMIZED DESIGN) ในปีนี้ทีม AP Design Lab ไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างความแตกต่าง ทั้งด้านการดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งานภายในตัวบ้าน เพื่อตอบความต้องการที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันเอพีได้พัฒนาแบบบ้านมากกว่า 70 แบบ กระจายอยู่ตามโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมในทำเลต่างๆ และในปี 2561 นี้เอพีพร้อมเปิดตัวแบบบ้านใหม่อีกจำนวนมาก ผ่านแผนการเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ จำนวน 30 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยเป็นทาวน์โฮม 17 โครงการ มูลค่า 15,300 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว 13 โครงการ มูลค่า 14,700 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมเครือเอพี ต้องเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวคนเมือง (THE ULTIMATE CHOICE FOR URBAN FAMILY)
- บริหารพอร์ตตลาดต่างประเทศ ผ่านการมอบหมายให้บริษัทในเครือเอพี บางกอก ซิตี้สมาร์ท จำกัด (BC) ซึ่งดำเนินธุรกิจตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์คลอบคลุมบริการรับฝากขาย ฝากเช่า เข้ามาบริหารจัดการดูแลการขายคอนโดมิเนียมเอพีในตลาดต่างประเทศอย่างเป็นทางการ หลังจากปีที่ผ่านมา BC มีผลการดำเนินงานที่ก้าวกระโดด ถือเป็นโบรเกอร์อันดับต้นๆ มียอดขายมูลค่าอสังหาริมทรัพย์สูงถึง 10,000 ล้านบาท
- พัฒนานวัตกรรมดิจิตอลเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี มุ่งสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัย ผ่านการผสานเทคโนโลยีเข้ากับกระบวนการออกแบบพื้นที่ใช้สอย ซึ่งปีที่ผ่านมาเอพีได้ร่วมกับพันธมิตรในการนำเสนอ นวัตกรรมต่างๆ ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย เช่น ล็อกเกอร์อัจฉริยะ AP Smart Pod ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งลูกบ้านในคอนโดมิเนียมสามารถรับของได้ตลอด 24 ช.ม.ด้วยตนเอง รวมถึงการนำเทคโนโลยี IoT มาเชื่อมต่อในทุกพื้นที่อยู่อาศัย เป็นต้น โดยในปี 2561 นี้ เอพีมีแผนจัดตั้งหน่วยงานพิเศษ เพื่อทำหน้าที่ค้นหา คิดค้น และพัฒนานวัตกรรมที่ส่งเสริมและยกระดับรูปแบบการดำเนินชีวิตสู่ประสบการณ์อยู่อาศัยในอสังหาริมทรัพย์ไปสู่วิถีใหม่ๆ ครบถ้วนด้วยคุณภาพ ความสะดวกสบาย และปลอดภัยเข้าถึงความหมายของคำว่าคุณภาพชีวิตที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริงและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
กิจการร่วมค้ากับ Mitsubishi Estate Corporation เป็นอย่างไรบ้าง? มีแผนงานที่จะพัฒนาโครงการร่วมกันในอนาคตอีกหรือไม่?
เอพี ไทยแลนด์ ได้ยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจกับ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเป็นปีที่ 5 โดยต้นปี 2561 นี้ เอพี ไทยแลนด์ และมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป มีแผนที่จะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลางถึงบนอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นปีได้มีการลงนามในสัญญาความร่วมมือพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกัน จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 23,000 ล้านบาท
AP มีแผนพัฒนาโครงการที่ก่อให้เกิดรายได้ประจำหรือไม่?
โครงการส่วนใหญ่ของเอพีมียอดขายที่ดี และมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับที่ผ่านมามียอดขายรวมได้กว่า 42,900 ล้านบาท เกินจากเป้าหมายยอดขายเดิมที่ตั้งไว้ในปี 2560 คือ 26,000 ล้านบาท หรือโตขึ้นถึง 92% หากเทียบกับยอดขายปี 2559 ที่ทำได้ โดยในปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 33,500 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้รวมปี 2561 ไว้ที่ 28,100 ล้านบาท
มุมมองเกี่ยวกับตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ ปี 61 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นตามการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจประเทศที่กิจกรรมการตลาดและบรรยากาศการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงต้นปี 61 การแข่งขันในตลาดอสังหาฯ ยังคงเกิดจากผู้ประกอบการรายใหญ่ประมาณ 10 รายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ถือครองส่วนแบ่งอยู่ประมาณ 80% ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงเร็ว และแบ่งย่อยเป็นกลุ่มที่ซับซ้อนโดยเชื่อว่าสินค้าคอนโดมิเนียมที่ตอบตลาดระดับกลางถึงบนมีแนวโน้มเติบโตได้ดี เพราะมีซัพพลายในตลาดไม่มาก และสต๊อกส่วนใหญ่ถูกระบายออกไปในปีที่ผ่านมา
คุณมองแนวโน้มการพัฒนาของตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ เป็นอย่างไร?
ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นทั้งในด้านยอดขาย ดีมานด์ และซัพพลาย เห็นได้จากพฤติกรรมการซื้อบ้านหลังที่สอง หรือซื้อเพื่อลงทุนของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบัน และรสนิยมของผู้ที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป หันมาใส่ใจในภาพลักษณ์ของคอนโดที่ตนอาศัยอยู่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบและคุณภาพ รวมถึงโลเคชั่นอยู่ใจกลางเมืองที่สามารถเดินทางได้สะดวกสบายรวดเร็ว
สำหรับเอพีเอง เรามีโครงการคอนโดมิเนียมระดับอัลตร้า – ลักซ์ชัวรี่คือ VITTORIO ที่อยู่ในโซนสุขุมวิท ใจกลาง The Em District นับว่าเป็นทำเลที่มีจำนวนดีมานด์และมียอดขายดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นคอนโดระดับอัลตร้า-ลักซ์โครงการแรกที่เอพีริเริ่ม ซึ่งเราไม่ได้คำนึงถึงแค่ทำเล การออกแบบก่อสร้าง การจัดวางสเปซ และพื้นที่ใช้สอยอย่างเคย แต่เราคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวสูงสุดที่ผู้อยู่อาศัยจะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งด้วยงานศิลป์ที่ทรงคุณค่า และระบบการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด
การขยายตัวของระบบขนส่งมวลชนมีผลต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมของคุณอย่างไรบ้าง?
จากปัจจัยด้านการลงทุนของภาครัฐที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนต่อขยายสายต่างๆ รอบกรุงเทพฯ ส่งผลให้คนไทยย้ายออกจากตัวเมืองมากขึ้นทำให้ดีมานด์ที่อยู่อาศัยรอบกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น และการเดินทางเข้าเมืองจะสะดวกสบายขึ้นด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือรถไฟใต้ดินที่สามารถเข้าถึงตัวเมืองได้เพียงไม่กี่นาที ปัจจัยนี้เองที่ส่งผลให้ดีมานด์ที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ รอบนอก หรือเขตชานเมืองมีเพิ่มขึ้น ดังนั้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้คาดว่าจะมีการขยายตัวที่ดีตอบรับกับภาพรวมของการพัฒนาประเทศ
ปัจจัยที่ทำให้ AP แตกต่างจากคู่แข่งคืออะไร?
ด้วยความพร้อมด้านทีมงานคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ และพันธมิตรคุณภาพภายใต้ passion เดียวกันที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่อาศัยคุณภาพ ผมเชื่อว่า เอพี ไทยแลนด์จะสามารถสร้างความแตกต่างและความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และยังคงเป็น 1 ใน 3 ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยจะนำเสนอ นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยแห่งอนาคต ผ่านการคิดค้นและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เท่าทันต่อโลกในอนาคต เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมไทยให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อะไรคือความเสี่ยงที่มีนัยยะสำคัญต่อธุรกิจของคุณมากที่สุด?
การปรับตัวขึ้นของราคาที่ดินในเมือง ส่งผลต่อการตั้งราคา และวาง Positioning ของสินค้า เพื่อให้ตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเรา ซึ่งเป็นปัจจัยท้าทายผู้ประกอบการ อสังหาริมทรัพย์หลายราย ปีที่ผ่านมาทำให้เห็นภาพหลายๆ บริษัท เผยกลยุทธ์แก้เกมเพื่อแข่งขันกันตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด แต่กลุ่มเป้าหมายของเอพียังคงมีกำลังซื้อสูง ประกอบกับในปัจจุบัน กลุ่มเป้าหมายให้ความใส่ใจในคุณภาพมากขึ้น หากมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และคุ้มค่าต่อการลงทุน ก็พร้อมที่จะใช้เงินเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพทย์ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการอยู่อาศัยหรือเพื่อการลงทุน
คุณมองภาพธุรกิจ AP อีก 5 ปีข้างหน้าอย่างไร?
สำหรับเป้าหมายของเอพีในอีก 5 ปีข้างหน้า บริษัทฯ ยังคงต้องการจะครองตำแหน่งผู้นำตลาดผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ภายใต้พันธกิจสำคัญ คือ การส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัย ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการคิดค้นนวัตกรรมดีไซน์ใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยทั้งในปัจจุบัน และอนาคต พร้อมวาง Infrastructure ที่มีคุณภาพและยั่งยืนให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย
The Executive Talk Interview จัดทำโดย ShareInvestor ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในเอเชียด้านสื่อออนไลน์ทางการด้านเงินและเทคโนโลยี และมีเครือข่ายนักลงทุนสัมพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถส่งอีเมล์มาที่ admin.th@shareinvestor.com เว็บไซต์: www.ShareInvestorThailand.com